Investment Society by Sukit Udomsirikul
|
|
|
|
Wednesday, 10 March 2010 08:07 |
Investment
Society by Sukit Udomsirikul
Telecom
Sector : Council of State’s opinion should affirm NTC to move on
SCRI
มีมุมมองเป็นบวกหลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือแสดงความเห็นตอบกลับไปยัง
กทช.
เรื่อง
การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่วิทยุกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่
IMT
หรือ
3G
ที่
กทช.ขอหารือไปตั้งแต่เดือน
พ.ย.
2552 จากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่า
กทช.
สามารถปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคมได้ทั้งหมดแม้ว่าจะอยู่ในฐานะรักษาการก็ตามทำให้
SCRI
มีความมั่นใจว่าการหมดวาระของ
กทช.
อีก
3
คน
ในเดือน ก.ย.
2553 จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการออกใบอนุญาตในการใช้คลื่นความถี่
2.1
GHz และ
เชื่อว่าความเห็นของความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะสร้างความมั่นใจต่อ
กทช.
ในการปฏิบัติหน้าที่
ทำให้ความคืบหน้าของการออกใบอนุญาตจะเดินหน้าได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี SCRI
ประเมินว่า
การออกใบอนุญาตของคลื่น
2.1
GHz อาจจะยังไม่ราบรื่น
และ มีความเสี่ยงที่จะล่าช้า
เนื่องจากรัฐบาลอาจจะให้
กทช.
สอบถามความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกครั้งในประเด็นที่ว่าการออกใบอนุญาตเข้าข่ายการดำเนินงานตาม
พ.ร.บ.
ร่วมทุนปี
2535
หรือไม่
เพราะ
คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ให้ความเห็นในครั้งนี้เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ
ซึ่งอาจจะทำให้กระบวนการต่างๆล่าช้าออกไปมากกว่าที่
SCRI
คาดการณ์
ความเห็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของ
กทช.
ชี้ว่า
กทช.
ที่จะหมดวาระในเดือน
ก.ย.
2553 ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
:
แม้ว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่า
กทช.
รักษาการ
3
ท่านสามารถปฏิบัติงานต่อไป
ไม่น่าจะใช้ได้ตามสถานการณ์ปัจจุบันที่
กทช.
4 คนที่ได้ถูกสรรหา
ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นที่เรียกร้อย
แต่ถือว่าความเห็นดังกล่าวเป็นบวกต่อการตีความถึงอำนาจหน้าที่ของ
กทช.
อีก
3
คน
ที่กำลังจะหมดวาระลงในเดือน
ก.ย.
2553 ซึ่งหากประเมินจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าว
SCRI
เชื่อว่า
กทช.
ทั้ง
3
ท่านที่จะอยู่ในตำแหน่งรักษาการ
กทช.
นับตั้งแต่วันที่
28
ก.ย.
2553 จะยังสามารถดำเนินการเพื่อให้การออกใบอนุญาตของคลื่นความถี่
2.1
GHz ต่อไปได้
จนกว่าจะมีการคัดเลือก กทช.
คนใหม่มาแทน
ดังนั้นกระบวนการในการออกใบอนุญาตจึงสามารถดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ต้องขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกต่อไป
คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่มีความเห็นเรื่อง
การเข้าข่าย พ.ร.บ.
ร่วมทุน
แต่เชื่อว่าไม่มีผลต่อการดำเนินการจัดสรรคลื่นของ
กทช.
:
คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการจัดสรรคลื่นความถี่
2.1
GHz เข้าข่าย
พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินการในกิจการ
ของรัฐ พ.ศ.
2535 หรือไม่
เนื่องจากโครงการการจัดสรรคลื่นความถี่
2.1
GHz เพื่อให้ใช้บริการ
3G
ของ
กทช.
ยังไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะดำเนินการเมื่อใด
และ ดำเนินการในลักษณะใด
อย่างไรก็ดี SCRI
ประเมินว่า
ประเด็นนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อขั้นตอนในการออกใบอนุญาตของ
กทช.
โดยหลังจากที่มีการเลือกประธาน
กทช.
แล้วคาดว่า
กทช.
จะดำเนินการพิจารณารายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตได้แก่
ร่างข้อสรุปข้อสนเทศ
อัตราค่าใบอนุญาตเริ่มต้น
และ การจัดทำการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
โดยหากไม่มีอะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
SCRI
คาดว่า
การประมูลน่าจะเกิดขึ้นได้ในปีนี้
การออกใบอนุญาตของ
2.1
GHz อาจล่าช้า
หากรัฐบาลให้ กทช.
ขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรื่องเข้าข่าย พ.ร.บ.
ร่วมทุน
อีกครั้ง :
ถึงแม้ว่า
SCRI
เชื่อว่า
ขั้นตอนการดำเนินงาน
หลังประกาศสรุปข้อสนเทศ
รัฐบาลอาจให้ กทช.
ขอความเห็นต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของการออกใบอนุญาต
กับ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี
2535
อีกในอนาคต
ซึ่ง SCRI
เชื่อว่าจะทำให้มีเกิดความยืดเยื้ออีกเช่นเดิม
โดยหากว่าคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า
การจัดสรรคลื่นความถี่ 2.1
GHz ของ
กทช.
โดยการประมูลคลื่นเข้าข่ายอยู่ภายใต้ข้อบังคับของ
พ.ร.บ.
ร่วมทุนปี
2535
จะทำให้ขั้นตอนในการจัดสรรคลื่นนานมากขึ้นจากเดิมที่
SCRI
ประเมินว่าจะเกิดการประมูลใบอนุญาตได้ภายในปี
2553
นอกจากนี้
หากต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาของ
คณะรัฐมนตรี
ซึ่งทราบดีอยู่แล้วว่าการออกใบอนุญาตในการใช้คลื่นความถี่
2.1
GHz
จะทำให้มีโอนย้ายลูกค้าจากธุรกิจภายใต้สัญญาสัมปทานไปยังธุรกิจภายใต้ใบอนุญาตที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
ทำให้ TOT
และ
CAT
ต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมากจากการออกใบอนุญาตดังกล่าวซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อบริษัทเอกชนอย่างแน่นอน
คาดการออกใบอนุญาตมีความคืบหน้า
เป็นบวกต่อกลุ่มสื่อสาร :
SCRI
ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนที่
BULLISH
โดยเห็นว่า
ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะสร้างความมั่นใจให้กับ
กทช.
ให้สามารถดำเนินการอย่างมั่นใจมากขึ้นว่ามีอำนาจและหน้าที่ทางกฎหมาย
ซึ่งน่าจะทำให้การจัดสรรคลื่นความถี่
2.1
GHz มีความคืบหน้ามากขึ้น
แม้ว่าประเด็นของคำตัดสินของศาลฎีกาฯเรื่องคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่
26
ก.พ.
2553 อาจทำให้ราคาหุ้นผันผวน
เพราะยังไม่แน่ใจว่าภาครัฐฯจะดำเนินการใดต่อบริษัทถูกนำไปเป็นพยานหลักฐานในคดีดังกล่าว
อย่างไรก็ดี SCRI
เชื่อว่า
ขบวนการในชั้นศาลจะใช้เวลาในการดำเนินคดีนานมากกว่า
1
ปี
จึงยังคงไม่มีกระทบต่อผลประกอบการปี
2553
ของบริษัท
ทั้งนี้ SCRI
คงคำแนะนำ
“ซื้อ” ADVANC
มูลค่าเหมาะสมในกรณีเลวร้ายที่สุดอยู่ที่
77.80
บาท
และ DTAC
มูลค่าเหมาะสมในกรณีเลวร้ายที่สุดอยู่ที่
27.70
บาท
สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีและพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
คอลัมน์หนังสือพิมพ์กระแสหุ้น
Investment
Society by Sukit Udomsirikul
Telecom
Sector : Council of State’s opinion should affirm NTC to move on
SCRI
มีมุมมองเป็นบวกหลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือแสดงความเห็นตอบกลับไปยัง
กทช.
เรื่อง
การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่วิทยุกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่
IMT
หรือ
3G
ที่
กทช.ขอหารือไปตั้งแต่เดือน
พ.ย.
2552 จากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่า
กทช.
สามารถปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคมได้ทั้งหมดแม้ว่าจะอยู่ในฐานะรักษาการก็ตามทำให้
SCRI
มีความมั่นใจว่าการหมดวาระของ
กทช.
อีก
3
คน
ในเดือน ก.ย.
2553 จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการออกใบอนุญาตในการใช้คลื่นความถี่
2.1
GHz และ
เชื่อว่าความเห็นของความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะสร้างความมั่นใจต่อ
กทช.
ในการปฏิบัติหน้าที่
ทำให้ความคืบหน้าของการออกใบอนุญาตจะเดินหน้าได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี SCRI
ประเมินว่า
การออกใบอนุญาตของคลื่น
2.1
GHz อาจจะยังไม่ราบรื่น
และ มีความเสี่ยงที่จะล่าช้า
เนื่องจากรัฐบาลอาจจะให้
กทช.
สอบถามความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกครั้งในประเด็นที่ว่าการออกใบอนุญาตเข้าข่ายการดำเนินงานตาม
พ.ร.บ.
ร่วมทุนปี
2535
หรือไม่
เพราะ
คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ให้ความเห็นในครั้งนี้เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ
ซึ่งอาจจะทำให้กระบวนการต่างๆล่าช้าออกไปมากกว่าที่
SCRI
คาดการณ์
ความเห็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของ
กทช.
ชี้ว่า
กทช.
ที่จะหมดวาระในเดือน
ก.ย.
2553 ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
:
แม้ว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่า
กทช.
รักษาการ
3
ท่านสามารถปฏิบัติงานต่อไป
ไม่น่าจะใช้ได้ตามสถานการณ์ปัจจุบันที่
กทช.
4 คนที่ได้ถูกสรรหา
ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นที่เรียกร้อย
แต่ถือว่าความเห็นดังกล่าวเป็นบวกต่อการตีความถึงอำนาจหน้าที่ของ
กทช.
อีก
3
คน
ที่กำลังจะหมดวาระลงในเดือน
ก.ย.
2553 ซึ่งหากประเมินจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าว
SCRI
เชื่อว่า
กทช.
ทั้ง
3
ท่านที่จะอยู่ในตำแหน่งรักษาการ
กทช.
นับตั้งแต่วันที่
28
ก.ย.
2553 จะยังสามารถดำเนินการเพื่อให้การออกใบอนุญาตของคลื่นความถี่
2.1
GHz ต่อไปได้
จนกว่าจะมีการคัดเลือก กทช.
คนใหม่มาแทน
ดังนั้นกระบวนการในการออกใบอนุญาตจึงสามารถดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ต้องขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกต่อไป
คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่มีความเห็นเรื่อง
การเข้าข่าย พ.ร.บ.
ร่วมทุน
แต่เชื่อว่าไม่มีผลต่อการดำเนินการจัดสรรคลื่นของ
กทช.
:
คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการจัดสรรคลื่นความถี่
2.1
GHz เข้าข่าย
พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินการในกิจการ
ของรัฐ พ.ศ.
2535 หรือไม่
เนื่องจากโครงการการจัดสรรคลื่นความถี่
2.1
GHz เพื่อให้ใช้บริการ
3G
ของ
กทช.
ยังไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะดำเนินการเมื่อใด
และ ดำเนินการในลักษณะใด
อย่างไรก็ดี SCRI
ประเมินว่า
ประเด็นนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อขั้นตอนในการออกใบอนุญาตของ
กทช.
โดยหลังจากที่มีการเลือกประธาน
กทช.
แล้วคาดว่า
กทช.
จะดำเนินการพิจารณารายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตได้แก่
ร่างข้อสรุปข้อสนเทศ
อัตราค่าใบอนุญาตเริ่มต้น
และ การจัดทำการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
โดยหากไม่มีอะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
SCRI
คาดว่า
การประมูลน่าจะเกิดขึ้นได้ในปีนี้
การออกใบอนุญาตของ
2.1
GHz อาจล่าช้า
หากรัฐบาลให้ กทช.
ขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรื่องเข้าข่าย พ.ร.บ.
ร่วมทุน
อีกครั้ง :
ถึงแม้ว่า
SCRI
เชื่อว่า
ขั้นตอนการดำเนินงาน
หลังประกาศสรุปข้อสนเทศ
รัฐบาลอาจให้ กทช.
ขอความเห็นต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของการออกใบอนุญาต
กับ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี
2535
อีกในอนาคต
ซึ่ง SCRI
เชื่อว่าจะทำให้มีเกิดความยืดเยื้ออีกเช่นเดิม
โดยหากว่าคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า
การจัดสรรคลื่นความถี่ 2.1
GHz ของ
กทช.
โดยการประมูลคลื่นเข้าข่ายอยู่ภายใต้ข้อบังคับของ
พ.ร.บ.
ร่วมทุนปี
2535
จะทำให้ขั้นตอนในการจัดสรรคลื่นนานมากขึ้นจากเดิมที่
SCRI
ประเมินว่าจะเกิดการประมูลใบอนุญาตได้ภายในปี
2553
นอกจากนี้
หากต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาของ
คณะรัฐมนตรี
ซึ่งทราบดีอยู่แล้วว่าการออกใบอนุญาตในการใช้คลื่นความถี่
2.1
GHz
จะทำให้มีโอนย้ายลูกค้าจากธุรกิจภายใต้สัญญาสัมปทานไปยังธุรกิจภายใต้ใบอนุญาตที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
ทำให้ TOT
และ
CAT
ต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมากจากการออกใบอนุญาตดังกล่าวซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อบริษัทเอกชนอย่างแน่นอน
คาดการออกใบอนุญาตมีความคืบหน้า
เป็นบวกต่อกลุ่มสื่อสาร :
SCRI
ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนที่
BULLISH
โดยเห็นว่า
ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะสร้างความมั่นใจให้กับ
กทช.
ให้สามารถดำเนินการอย่างมั่นใจมากขึ้นว่ามีอำนาจและหน้าที่ทางกฎหมาย
ซึ่งน่าจะทำให้การจัดสรรคลื่นความถี่
2.1
GHz มีความคืบหน้ามากขึ้น
แม้ว่าประเด็นของคำตัดสินของศาลฎีกาฯเรื่องคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่
26
ก.พ.
2553 อาจทำให้ราคาหุ้นผันผวน
เพราะยังไม่แน่ใจว่าภาครัฐฯจะดำเนินการใดต่อบริษัทถูกนำไปเป็นพยานหลักฐานในคดีดังกล่าว
อย่างไรก็ดี SCRI
เชื่อว่า
ขบวนการในชั้นศาลจะใช้เวลาในการดำเนินคดีนานมากกว่า
1
ปี
จึงยังคงไม่มีกระทบต่อผลประกอบการปี
2553
ของบริษัท
ทั้งนี้ SCRI
คงคำแนะนำ
“ซื้อ” ADVANC
มูลค่าเหมาะสมในกรณีเลวร้ายที่สุดอยู่ที่
77.80
บาท
และ DTAC
มูลค่าเหมาะสมในกรณีเลวร้ายที่สุดอยู่ที่
27.70
บาท
สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีและพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
|
Comments