บีโอไอเผยยอดขอลงทุนภาคเหนือ9เดือนพุ่ง2หมื่นล. |
![]() |
![]() |
![]() |
Thursday, 04 November 2010 16:09 | |||
นายสมมาตย์ ตั้งสกุล ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่1 (บีโอไอ) เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในภาคเหนือไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 (ต.ค. - ธ.ค.) มีทิศทางที่ดีและคาดว่าทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าการลงทุนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากช่วง 9 เดือนแรกของปี และช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะยังมีนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติยื่นเรื่องขอรับการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากสถิติปีก่อนนักลงทุนส่วนใหญ่มักยื่นเรื่องขอรับการส่งเสริมมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายแต่ปี 2553 นี้มีจำนวนมากกว่าปีก่อน ส่วนภาวะการลงทุนภาคเหนือ 9 เดือนแรกของปีนี้ ( ม.ค. - ก.ย.) โครงการที่ขอรับการส่งเสริมใน 17 จังหวัดภาคเหนือ มีจำนวน 79 โครงการ เพิ่มขึ้น 33.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2552 ที่มีจำนวน 59 โครงการ ส่วนมูลค่าการลงทุนรวม 38,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่าการลงทุนรวม 14,636 ล้านบาท อุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจยื่นขอรับการส่งเสริม 3 อันดับแรก คือ อุตสาหกรรมการเกษตรและผลิตผลทางการเกษตร 25 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 6,132.8 ล้านบาท อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค 17 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 28,428.8 ล้านบาท และอุตสาหกรรมเบา 14 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 538.5 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจยื่นขอรับการส่งเสริม ได้แก่ ญี่ปุ่น เนเธอแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี เยอรมัน สหรัฐอเมริกา และเดนมาร์ก นายสมมาตย์ กล่าวว่า โครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมีจำนวนโครงการและเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติมี 69 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 20,215.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีจำนวน 38 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 4,565.9 ล้านบาท มูลค่าการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลจากนโยบายส่งเสริมดารลงทุนใหม่ เช่น การลงทุน SMEs การลงทุนเพื่อพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมทางเลือก โครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 3 อันดับแรก คือ อุตสาหกรรมการเกษตรและผลผลิตทางการเกษตร 21 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 2,708.8 ล้านบาท อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค 17 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 9,181 ล้านบาท และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 13 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 3,625.6 ล้านบาท "โครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติส่วนใหญ่เป็นการลงทุนขนาดไม่เกิน 200 ล้านบาท มีจำนวนถึง 55 โครงการ อุตสาหกรรมที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนที่น่าสนใจและมีมูลค่าการลงทุนสูงเป็นอันดับแรก คือ กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานเชื้อเพลิง พลังงานชีวมวล มีจำนวน 9 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 4,029 ล้านบาท"นายสมมาตย์กล่าว นายสมมาตย์ กล่าวอีกว่า จังหวัดลำพูนยังเป็นพื้นที่ที่มีการลงทุนสูงสุด มีจำนวน 24 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 4,346.2 ล้านบาท รองลงมา คือ เชียงใหม่ 18 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 857.4 ล้านบาท นครสวรรค์ 6 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 484.9 ล้านบาท เชียงราย 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 51.8 ล้านบาท เพชรบูรณ์ 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 6,644.6 ล้านบาท ตาก 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 149.4 ล้านบาท ฯลฯ
|
![]() | Today | 1026 |
![]() | All days | 1026 |
Comments