KBANK แนะซื้อเมื่ออ่อนตัวแนวรับ 93, 90 แนวต้าน 100
|
|
|
|
Tuesday, 04 May 2010 11:19 |
วันนี้การเมืองเป็นบวกหลังจากนายกรัฐมนตรี แถลง Roadmap แนวทางปรองดองแห่งชาติ 5 ข้อคือ 1. ให้คนไทยร่วมมือกันเทิดทูนสถาบันพ ระมหากษัตริย์ 2. ปฏิรูปประเทศ 3. ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของสื่อในการนำ เสนอข่าวสาร 4. ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์สูญ เสียที่เกิดขึ้น 5.แก้กฎหมายต่างๆ หรือรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นธรรม และหากทุกอย่างดำเนินไปตามนี้รัฐบาลจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่วัน ที่ 14 พ.ย. นี้ หมายความว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นประมาณกลางเดือน กันยายน 2553 หลังการผ่านร่างงบประมาณปี 2554 และการโยกย้ายแต่งตั้งตำแหน่งแล้ว หรืออีกประมาณ 5 เดือนนับจากนี้ ขณะที่ท่าทีของแกนนำนปช. ก็ออกมาในทิศทางบวก จะมีการประชุม และสรุปในวันนี้หรือก่อนวันฉัตรมงคล ดัชนีหุ้นไทยขึ้น 10 จุด เมื่อวันศุกร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้น หลังจากมีการเก็งกำไรว่า การเมืองน่าจะจบภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ยังมีข่าวดีจากต่างประเทศ วันจันทร์ที่ผ่านมา Dow Jones กลับมาปิดบวก 143 จุดจากข่าวดีที่กลุ่ม EU และ IMF ให้เงินกู้แก่กรีซกว่า US$1.45 แสนล้านเหรียญ ตัวเลขเศรษฐกิจก็ออกมาดีกว่าคาด ได้แก่ ISM (วัดข้อมูลที่เกี่ยวกับภาค การผลิต) การใช้จ่ายของผู้บริโภค (เพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6) รวมทั้งผลประกอบการของหลายบริษัท ยกเว้นการใช้จ่ายในการก่อสร้างที่ต่ำกว่าคาด ตลาดหุ้นที่บวกแรงส่งผลให้ราคาน้ำมัน 2 วันที่ผ่านมาบวก US$1.02 มาปิดที่ US$86.19 ต่อบาร์เรล บวกกับดุลการค้าของประเทศในเอเชียแข็ง แกร่ง วันจันทร์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้และไต้หวันรายงายยอดส่งออกเติบโต ต่อเนื่อง โดยยอดส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือน เม.ย. โดยเพิ่มขึ้น 31.5% Y-Y ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเพียงเล็กน้อยรัฐบาล คาดว่าการส่งออกในปีนี้ของเกาหลีใต้จะเติบโต 13% เทียบกับปีก่อนที่หดตัว 14% ส่วนไต้หวันมียอดส่งออกเพิ่มขึ้นติดต่อกัน เป็นเดือนที่ 5 ในเดือน มี.ค. โดยเพิ่มขึ้น 50.1% Y-Y ดุลการค้าของประเทศในเอเชียที่แข็งแกร่งนับเป็นข่าวบวกกับเศรษฐกิจ ไทยซึ่งพึ่งพาการส่งออกถึง 65% - 70% ยอดส่งออกของไทยเดือน เม.ย.จะประกาศประมาณวันที่ 19-20 เดือนนี้ เชื่อว่าจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ล่าสุดธปท. ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกทั้งปีเป็น 25% - 28% จากเดิม 18.5% - 21.5% สุดท้ายคือภาวะเศรษฐกิจเดือน มี.ค. ของไทยดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากการเมืองจบ ทุกอย่างก็จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
หุ้นที่น่าสนใจ และเชื่อว่าจะฟื้นตัวแรงหลังการเมืองยุติ นอกเหนือจากกลุ่มพลังงาน PTT-PTTEP-PTTAR-PTTCK-TOP ก็ยังมีกลุ่มแบงก์ KBANK, SCB, KTB, BAYนอกนั้นที่น่าสนใจเช่น BANPU, LANNA, ADVANC, ค้าปลีก เช่น CPALL, BIGC อสังหาฯ AP, PS, QH รับเหมา STEC, CK นิคมฯ ROJNA, AMATA วัสดุก่อสร้าง SCC
KBANK ยังโตโดดเด่น
ในมุมข่าว ธนาคารกสิกรไทย คาดการณ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยปี 2553 ของธนาคารฯ จะเติบโตสูงกว่าประมาณการเดิมที่คาดไว้ว่าจะเติบโต 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะเติบโตได้ถึง 20% หรือคิดเป็นมูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาท จากพอร์ตสินเชื่อที่ 1.27 แสนล้านบาททั้งนี้ธนาคารฯคาดการณ์ในปี 2553 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะสามารถรักษาให้อยู่ในระดับ 2.3-2.4% ซึ่งดีกว่าประมาณการที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 2.5% ภายหลัง NPL ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นเดือนมี.ค.2553 NPL ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.29% จากสิ้นเดือนธ.ค.ที่อยู่ที่ระดับ 2.39% ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการเมืองในขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อ NPLอย่างไรก็ตามทางธนาคารคงยังไม่มีการปรับประมาณการ NPL จาก 2.5% เพราะอยากรอดูสถานการณ์การเมืองในอนาคตก่อน
โบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำสำหรับ KBANK บล.กิมเอ็ง “ซื้อลงทุน” มูลค่าเหมาะสมที่ 101 บาท สถาบันวิจัยนครหลวงไทย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 101 บาท บล.ฟิลลิป แนะนำ 'ซื้อ' ราคาพื้นฐานปี 53 ที่ 107 บาท บล.เคที ซีมิโก้ แนะนำ ซื้อ มูลค่าพื้นฐาน 118 บาท บล.โกลเบล็ก ให้ราคาเหมาะสมปี 53 ที่ 126 บาท แนะนำ 'ซื้อ' บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 124 บาท อิงจาก PBV 2.2 เท่าปี 2553F บล.ยูไนเต็ด แนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายปี 53 ที่ 118 บาท บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำ 'ซื้อ' ราคาพื้นฐาน 110 บาท
|
Comments