Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Top Headlines ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง458.92จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง458.92จุด PDF Print E-mail
Tuesday, 03 April 2018 07:04

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) ที่ 23,644.19 จุด ร่วงลง 458.92 จุด หรือ -1.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,581.88 จุด ลดลง 58.99 จุด หรือ -2.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,870.12 จุด ลดลง 193.33 จุด หรือ -2.74% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดจีนได้ออกมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวนมากกว่า 100 รายการ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และกูเกิล)

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดรัฐบาลจีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆจากสหรัฐ จำนวน 128 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูและผลไม้ โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้สหรัฐที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในช่วงก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ จีนได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 120 รายการจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลไม้และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอีก 8 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู ในอัตรา 25% เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมในอัตรา 10% จากประเทศต่างๆ รวมถึงจีน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกล่าวหาว่า จีนดำเนินนโยบายการค้าและการลงทุนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากสหรัฐ

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ร่วงลงสู่ระดับ 59.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวสู่ระดับ 60.0

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% โดยการใช้จ่ายในโครงการภาคสาธารณะดิ่งลง 2.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ส่วนการก่อสร้างในโครงการของรัฐบาลกลางดิ่งลง 11.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2547

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), คำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ., ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday705
mod_vvisit_counterAll days705

We have: 702 guests online
Your IP: 216.73.216.208
Mozilla 5.0, 
Today: Dec 25, 2025

6073040