ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง22.82จุด |
Thursday, 17 October 2019 08:20 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) ที่ 27,001.98 จุด ลดลง 22.82 จุด หรือ -0.08% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,989.69 จุด ลดลง 5.99 จุด หรือ -0.20% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,124.18 จุด ลดลง 24.52 จุด หรือ -0.30% หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย.หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกง ยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาด และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ลดลง 0.3% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ส่งสัญญาณว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เคยเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น กำลังชะลอตัวลง ขณะที่สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ได้กดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเช่นกัน หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ด้วยการผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่ นักลงทุนวิตกกังวลว่า ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกงนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งมีความเปราะบางอยู่แล้วในขณะนี้ หลังมีรายงานว่า จีนต้องการเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ เพื่อสรุปรายละเอียดของข้อตกลงการค้าขั้นแรกก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะลงนามร่วมกัน นักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาว่าด้วยการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยคณะผู้เจรจาจาก EU และอังกฤษได้เริ่มการเจรจาข้อตกลง Brexit รอบใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวังที่ว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เพื่อส่งให้ผู้นำ EU ลงนามรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดวันที่ 17-18 ต.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board
|
Today | 8903 | |
All days | 167590111 |
Comments