Snapshot

สหรัฐอเมริกา

ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นเพียง 261,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 310,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.1% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ 4.2% ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนกันยายน โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 18,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าลดลง 33,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 169,000 ตำแหน่ง ด้านตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ลดลง 1 เซนต์/ชั่วโมงในเดือนตุลาคม และเพิ่มขึ้นเพียง 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นรายปีที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนกันยายน ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 4.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ขาดดุล 4.28 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ การส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 1.968 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557 ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 1.2% สู่ระดับ 2.403 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะเดียวกัน สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนลดลง 0.7% สู่ระดับ 3.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ในเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 60.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเปิดตัวดัชนีดังกล่าวในปี 2551 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 58.5

IHS Markit ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม อยู่ที่ระดับ 55.3  โดยทรงตัวจากระดับเดือนกันยายน ทั้งนี้ ดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการในสหรัฐ

เอเชีย : จีน

ผลสำรวจของภาคเอกชนพบว่า ภาคบริการของจีนมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนต.ค. ซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในช่วงเริ่มต้นไตรมาส 4 ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการที่รวบรวมโดยไคซิน/มาร์กิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.2 ในเดือนต.ค. จากระดับ 50.6 ในเดือนก.ย. อย่างไรก็ดีดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า

เทศบาลกรุงปักกิ่งของจีนได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยสีส้มสำหรับหมอกควันเป็นครั้งแรกก่อนฤดูหนาวในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเกิดมลพิษทางอากาศเป็นอย่างมากในช่วง 4 วันข้างหน้า โดยสัญญาณสีส้มนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนขั้นรองสูงสุดในระบบสัญญาณเตือนฉุกเฉิน 4 ขั้นของจีน เว็บไซต์ Weather.com ;ประกาศว่า ยานพาหนะที่มีมาตรฐานการปล่อยไอเสีย National I และ II และรถบรรทุกที่ขนส่งดินเสียและเศษสิ่งก่อสร้าง จะถูกสั่งห้ามใช้ถนนในวันที 4-8 พ.ย. โดยเว็บไซต์ Weather.com ;นี้อยู่ในเครือของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีน ภาคเหนือของจีนเผชิญปัญหาหมอกควันเรื้อรังในช่วงฤดูหนาว โดยเป็นผลจากการใช้ถ่านหินจำนวนมากในการทำความร้อนในจีน การประกาศเตือนภัยมลพิษถือเป็นเรื่องปกติในภาคเหนือของจีนในช่วงฤดูหนาว และรัฐบาลจีนก็เผชิญกับความยากลำบากในการแก้ไขปัญหานี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

รัฐบาลจีนระบุในแถลงการณ์ว่า คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ของจีนได้ออกร่างแนวปฏิบัติสำหรับบริษัทจีนในการลงทุนในต่างประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงการกำกับดูแล, ปกป้องความมั่นคงของชาติ และเพิ่มการสนับสนุน แถลงการณ์ของ NDRC นี้พัฒนามาจากกฎระเบียบเดิมที่ออกมาในปี 2014 ปริมาณการลงทุนทางตรงของจีนในธุรกิจนอกภาคการเงินในต่างประเทศลดลงในปีนี้ ในขณะที่ทางการจีนควบคุมเงินทุนไหลออกอย่างเข้มงวด เพื่อสกัดกั้นโครงการในต่างประเทศ "ที่ไม่สมเหตุสมผล" การคุมเข้มนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมเงินทุนไหลออกเพื่อเก็งกำไร หลังจากการไหลออกของเงินทุนกดดันหยวนให้อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางจีน, คณะกรรมการควบคุมกฎระเบียบธนาคารจีน และกระทรวงการเคหะได้ขอให้ธนาคารต่างๆเพิ่มการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินดาวน์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงความถูกต้องของรายได้ ทั้งนี้ จีนจะห้ามผู้ประกอบการและตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์จากการให้สินเชื่อการวางเงินดาวน์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งป้องกันไม่ให้สินเชื่อผู้บริโภครายบุคคลถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในการซื้อบ้าน

ออสเตรเลีย

ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5% ค่อนข้างแน่นอนในการประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ในบรรดานักเศรษฐศาสตร์ 48 คนในผลสำรวจนั้น 47 คนคาดว่า RBA จะคงนโยบายในการประชุมในวันอังคารที่ 7 พ.ย.นี้ซึ่ง RBA จะประกาศมติการประชุมในเวลา 11.30 น.ตามเวลาประเทศไทย

ไทย

อัตราผลตอบแทนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อายุ 14 วันในวันศุกร์ที่ผ่านมา ออกมาต่ำกว่าระดับ 1% และแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี ซึ่งเป็นผลจากแรงซื้อของกองทุนในประเทศ ที่ต้องการอาศัยพันธบัตรระยะสั้นเป็นที่พักเงิน โดยได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากหรือตราสารการเงินระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่ผู้จัดการกองทุน มองแนวโน้มผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยิลด์) ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า อาจจะขยับขึ้นได้บ้างตามสหรัฐ แต่ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากว่าที่ประธานกลางสหรัฐ(เฟด) มีแนวโน้มที่จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากนัก รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ที่จะยังคงในระดับต่ำต่อไป จนถึงอย่างน้อยในช่วงครึ่งหลังของปี 61

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันศุกร์ (3 พย.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือนตุลาคมในวันคืนนี้ ขณะที่การที่เมื่อคืนนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเลือกนายเจอโรม เพาเวล เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนต่อไปก็ส่งผลให้นักลงทุนมองว่าจะเป็นการสานต่อนโยบายการเงินแบบระมัดระวังของนางเยลเลน โดยมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะค่อยๆขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปและหนุนการค่อยๆแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการเปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ นักลงทุนก็มองว่าร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีดังกล่าวเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และมีแนวโน้มที่จะต้องเจรจาต่อรองกันต่อไปเนื่องจากร่างกฏหมายดังกล่าวมีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์และผู้ที่เสียประโยชน์

- ดอลลาร์/เยน วันศุกร์ (3 พย.) เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือนตุลาคมในคืนนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะเดินทางเยือนญี่ปุ่นในวันที่ 5-7 พ.ย.ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือกันหลายประเด็นทั้งเรื่องการค้า การเมืองระหว่างประเทศ

- ยูโร/ดอลลาร์ วันศุกร์ (3 พย.) เงินยูโรเคลื่อนไหวแกว่งตัวทั้งทิศทางแข็งค่าและอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือนตุลาคมในคืนนี้ ทั้งนี้ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงตลาดสหรัฐฯ ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 18,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย

Capital Market

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ (3 พ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดวันศุกร์ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นแอปเปิล โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.10% สู่ระดับ 23,539.19, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.31% สู่ระดับ 2,587.84 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 0.74% สู่ระดับ 6,764.44

- ตลาดหุ้นเอเซีย วันศุกร์ (3 พ.ย.) ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 0.36% สู่ระดับ 3,371.21 นักลงทุนขายหุ้นเกือบทุกกลุ่มในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมอยู่ในกลุ่มที่ลดลงมากที่สุด ดัชนีฮั่งเส็งปิดเพิ่มขึ้น 0.30% สู่ระดับ 28,603.61  ขณะที่ความวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนถูกชดเชยด้วยการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และความรู้สึกคลายกังวลที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเฟดคนต่อไป ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น

- ตลาดหุ้นไทย วันศุกร์ ( 3 พ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวขึ้นลงผันผวนในช่วงเช้า โดยในช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวลดลงนำโดยหุ้นในกลุ่ม พาณิชย์ และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 0.46 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 6 พ.ย. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment