STANLY กูรู เทใจแนะ "ซื้อ"
|
|
|
|
Tuesday, 25 May 2010 08:47 |
บล.กิมเอ็ง : STANLY แนะนำซื้อ ประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 160 บาท
กำไรงวด ม.ค. – มี.ค.53 โดดเด่นถึง 370 ล้านบาท (+29%qoq, +487%yoy) บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/53 หรือ งวด ม.ค. – มี.ค. 53 มีกำไรที่โดดเด่นถึง 370 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 4.82 บาท) เพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาสก่อน และ 487% จากปีก่อน เป็นระดับกำไรที่ขึ้นมาถึงบริเวณจุดสูงสุดในอดีต ที่ประมาณ 360-410 ล้านบาท และมากกว่าเราคาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 355 ล้านบาท ผล ประกอบการที่โดดเด่นอย่างมากดังกล่าว เนื่องจาก 1.) ได้แรงหนุนจากการส่งมอบไฟหน้าไฟ ท้ายมากขึ้นให้รถ Model ใหม่อย่าง Mazda 2 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และ จะมีการส่ง มอบไฟหน้าไฟท้ายให้ค่ายรถต่างๆเป็นจำนวนที่มากขึ้นในไตรมาสนี้ ทำให้ยอดขายของ STANLY สูงถึง 2,321 ล้านบาท สามารถทำสถิติสูงสุดได้ใหม่ เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน และ 70% จากปีก่อน ส่วน 2.) อัตรากำไรขั้นต้น ปรับตัวดีขึ้นและสามารถทำสถิติสูงสุดได้ใหม่ เท่ากับ 25.5% เทียบกับ 23.3% ในไตรมาส และ 14.3% ในปีก่อน เนื่องจากการใช้กำลังการ ผลิตเพิ่มขึ้น และ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดของเสีย 3.) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เท่ากับ 151 ล้านบาท (+8%qoq, +7%yoy) เพิ่มขึ้นน้อยกว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้น และ 4.) ภาระ ดอกเบี้ยจ่ายเท่ากับศูนย์ เนื่องจาก STANLY มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากไม่มีภาระหนี้เงินกู้ เลย
แนวโน้มผลประกอบารปี 2554 จะยังเติบโตโดดเด่น แนวโน้มปี 2554 หรือ งวด เม.ย. 53 – มี.ค. 54 คาดจะยังได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรม รถยนต์ ซึ่งหากนำตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ในงวด ม.ค. – มี.ค. 2553 ซึ่งเท่ากับ 381,860 คัน ปรับเป็นรายปีหรือคูณด้วย 4 จะมียอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ที่สูงถึง 1.53 ล้านคัน หรือ เติบโตจากปี ก่อน 53% มากกว่า สถาบันยานยนต์ประเมินยอดผลิตรถยนต์ในปี 2553 เท่ากับ 1.4 ล้านคัน เติบโตจากปีก่อน 40% ดังนั้นเรา ประเมินยอดขายปี 2554 เท่ากับ 8,300 ล้านบาท เติบโต 15% นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และ ลดของเสีย จะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น ปรับตัวดีขึ้นเป็น 22.2% เทียบกับ 21.1% ในปีก่อน และจะทำให้กำไรโดดเด่นถึง 1,217 ล้าน บาท (กำไรต่อหุ้น 15.89 บาท) เพิ่มขึ้น 29%
จ่ายเงินปันผล 5 บาท ประเมินราคาเหมาะสม 160 บาท ประมาณการของเรายังเป็นแบบอนุรัษณ์นิยม เผื่อผลกระทบด้านลบในอนาคต เพราะ หากเอาตัวเลขยอดขายและกำไรงวด ม.ค. – มี.ค. 2553 มาปรับเป็นรายปี หรือ คูณด้วย 4 จะสูง ถึง 9,284 ล้านบาท และ 1,480 ล้านบาท ตามลำดับ มากกว่าที่เราคาดไว้มาก และ ภายใต้ ฐาน P/E ปี 2554 เท่ากับ 10 เท่า เราประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 160 บาท นอกจากนี้ STANLY นับมีฐานะการเงินแข็งแกร่งไม่มีภาระหนี้เงินกู้เลย ในขณะที่มีเงินสดในมือสูงถึง 2,834 ล้านบาท หรือ 37 บาทต่อหุ้น ดังนั้น รวมแล้ว เราคงคำแนะนำ ซื้อ โดย STANLY ได้ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวด เม.ย. 52 – มี.ค. 53 เท่ากับ 5 บาท หรือ คิดเป็นเงินปันผลตอบแทนเท่ากับ 3.8%
|
Comments