| โกลเบล็ก ชี้ระยะสั้นราคาทองยังเด้งหลังไร้QE3 |
|
|
|
| Thursday, 01 March 2012 17:25 | |||
|
บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯชี้ราคาทองปรับลดลง หลังไร้เงามาตรการQE3 ซ้ำนักลงทุนทยอยขายเพื่อรับรู้กำไรช่วงปลายเดือน แนะทยอยขายหากไม่ผ่านแนวต้าน 1,750 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ และรอรับซื้อรอบใหม่ 1,650-1,680 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ พร้อมมั่นใจแม้ราคาทองผันผวนแต่ยอดขายยังตามเป้า ส่วนปันผล 0.04 บาทรอประชุมผู้ถือหุ้นลงมติอีกครั้ง นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (GBX) กล่าวถึงการปรับตัวลดลงของราคาทองคำวานนี้ ( 29 ก.พ.55) ว่า ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลง 89.35 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือ 5.01% มาอยู่ที่ 1,695.50 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ไม่ได้มีถ้อยแถลงถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลกระทบต่อราคาพันธบัตรสหรัฐ และหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น จึงทำให้นักลงทุนผิดหวัง และทยอยขายโลหะมีค่าออกมา เนื่องจากมีการปรับตัวขึ้นรับข่าวที่คาดว่าเฟดจะมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินออกมาในการประชุมวานนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงปลายเดือนทำให้นักลงทุนทยอยขายออกมาเพื่อรับรู้กำไรอีกด้วย ทั้งนี้ Globlex คาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นมีโอกาสจะปรับตัวขึ้น (Rebound) และปรับตัวลงต่ำได้หากไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,740-1,750 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ โดยแนะนำนักลงทุนที่มีสถานะ”ทยอยขาย”ที่แนวต้านดังกล่าว ส่วนผู้ที่รอซื้อต้องจับตาราคาทองคำว่าสามารถยืนเส้นค่าเฉลี่ย 150 วันที่ 1,714 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งก่อนจึงจะทยอยเข้าซื้อได้ สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวหากทางเฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป คาดว่าราคาทองคำยังอาจปรับตัวขึ้นได้โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,800 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ โดยทาง Globlex เชื่อว่าเฟดจะยังคงมาตรการดอกเบี้ยต่ำต่อไปจนถึงกลางปี 2014 ดังนั้น ราคาทองคำยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในระยะกลาง ดังนั้น หากมีการย่อตัวลงมาอีกรอบค่อยทยอยเข้าซื้อใหม่โดยมองแนวรับไว้ที่1,650-1,680 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ นายทรงวุฒิ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางโกลเบล็ก มีการส่งข้อมูลบทวิเคราะห์เกี่ยวกับทองคำเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงขึ้น ทางบริษัทฯได้จัดพนักงานโทรศัพท์หาลูกค้า เพื่อชี้แจ้งข้อมูลเข้าถึงลูกค้าอย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ และป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯกำลังพิจารณาปรับปรุงระบบการซื้อขายที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีความเสถียรมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาการไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ หากเกิดเหตุการณ์ราคาทองคำผันผวนอย่างรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯยังคงเป้าหมายยอดขายทองคำเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 54 ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) บริษัทฯสามารถทำยอดขายทองคำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนเข้ามาสนใจเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนสำคัญ คือ บริษัทฯการทำการตลาดมากขึ้นกว่าเดิม อาทิ กิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยการปรับกฎเกณฑ์สำหรับโครงการออมทอง จากเดิมต้องใช้เงินขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อเดือน ลดลงเหลือแค่ 5,000 บาทต่อเดือน เพื่อเปิดโอกาสให้สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนเพิ่มขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึงกิจกรรมที่ช่วยผลักดัน และสามารถกระตุ้นการเปิดบัญชีซื้อขายเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ 35% อีกเช่นกัน ขณะเดียวกัน การเติบโตในเรื่องของยอดขายของบริษัทฯสามารถประเมินได้จากการจ่ายเงินปันผลได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท ซึ่งได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรออนุมัติการจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 มีนาคม 2555 อีกครั้งหนึ่ง “เรามีการประสานงานกันทั้งในด้านของโกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ และบริษัทหลักทรัพย์ ที่จะคอยสนับสนุน และแนะนำลูกค้าเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันราคาทองคำจะมีความผันผวน แต่ยังถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำรองจากพันธบัตร ซึ่งนักลงทุนสามารถศึกษา หรือข้อคำแนะนำจากทางบริษัทฯก่อนการลงทุนได้ โดยจุดนี้เราแนะนำนักลงทุนมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการสัมมนาหรือในบทวิเคราะห์ นอกจากนี้ ทางบริษัทฯยังจัดทีมงานคอยรับโทรศัพท์ลูกค้าหากเกิดกรณีฉุกเฉิน ซึ่งต้องยอมรับว่าขณะนี้ปริมาณคู่สาย และจำนวนพนักงานอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งทางบริษัทฯได้มีแผนที่จะเพิ่มเติมในส่วนนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำอย่างรวดเร็วมากที่สุด”นายทรงวุฒิ กล่าว
|






![]() | Today | 198 |
![]() | All days | 198 |
Comments