|
Tuesday, 25 May 2010 10:10 |
|
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส (ASP) เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า SET50 Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) ว่าดัชนีฯ ยังถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาการเงินในยุโรปที่ยังไม่มีข้อสรุป กดดันภาวะตลาดหุ้นให้ปรับลดลงกันถ้วนหน้า
โดยดัชนีดาวโจนส์วานนี้ปรับลดลงไปกว่า 1.24% หรือ 126.82 จุด ปิดที่ระดับ 10,0066.57 จุด ดัชนีหุ้นยุโรป50 ก็ร่วงตามไปอีก 0.62% ในขณะที่ SET50 เองวานนี้ก็ดิ่งลงอย่างหนักไม่แพ้กัน โดยดัชนีปรับร่วงไปกว่า 16.77 จุดหรือกว่า 3.1%
ทั้งนี้นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิหุ้นไทยหนักกว่า 7,752 ล้านบาท ซึ่งเป็นปริมาณการขายสุทธิในวันของนักลงทุนต่างชาติที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 2538 (หากไม่นับเหตุการณ์วันที่ 19 ธ.ค.49 ที่นักลงทุนต่างประเทศขายหนักกว่า 2.51 หมื่นล้านบาท อันเกิดจากการออกนโยบายกันสำรอง 30% ) โดยแรงขายที่มากเป็นประวัติการณ์ครั้งนี้ น่าจะเป็นผลสะสมจากการที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการในวันที่ 20-21 พ.ค.53 ประกอบกับในช่วงวันดังกล่าวดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกล้วนปรับลดลงหนัก เหล่านี้จึงทำให้ไม่น่าแปลกใจอะไรนักที่จะเกิดแรงขายขนาดดังกล่าว
อย่างไรก็ตามจุดที่น่าติดตามนับจากนี้คือ เม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศที่ได้เข้าซื้อไปในช่วง 22 ก.พ.-7เม.ย.53 คงเหลือเพียง 1,542 ล้านบาท ซึ่งปริมาณที่เหลืออยู่ดังกล่าว อาจกดให้ดัชนีลงไปต่ำกว่าระดับ 512 จุดได้ไม่มากนัก
สำหรับทิศทางในวันนี้ดัชนียังมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก เพราะฉะนั้นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในวันนี้ยังคงเป็นการเปิดสถานะขาย (Short) โดยสามารถแบ่งกลยุทธ์ออกได้เป็น
1. เปิดสถานะขาย (Short) ตั้งแต่ระดับดัชนีเปิดประมาณไว้ที่ 515 จุด
2 .รอเปิดสถานะขาย (Short) รอที่บริเวณ 518-520 จุด หรือ
นักลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงสูง คือรอให้ดัชนีเคลื่อนไหวไปในช่วงเช้าระยะหนึ่งก่อนที่จะเปิดสถานะขาย (Short) ตาม เมื่อดัชนีฯกลับลงมาต่ำกว่า 515 จุด ทั้งนี้ Down Side ในการทำกำไรจากฝั่งขายเริ่มมีจำกัด เพราะฉะนั้นควรเน้นการเก็งกำไรภายในวัน โดยควรตั้งเป้าทำกำไรไว้จากระดับที่ 508-510 จุด และตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 525 จุด
ทั้งนี้ประเมินแนวรับของสัญญา S50M10 เดือนมิถุนายน 2553 ไว้ที่ 508 จุด แนวต้าน 525 จุด ด้าน SET50 ประเมินแนวรับไว้ที่ 512 จุด แนวต้าน 525 จุด
|
Comments