นายขวัญชัย ณัฏฐ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด(มหาชน) หรือ COLOR เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติกในรูปแบบของเม็ดพลาสติกผสมสี และสารเติมแต่งแบบเข้มข้นเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของวัตถุดิบในการผลิต เพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติก เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะระดมทุนและเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ (mai) ในช่วงไตรมาส 2/2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ซื้อเครื่องจักรใหม่ รวมถึงการลงทุนในโครงการปรับปรุงและขยายสายการผลิต 50-60%, ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 30% และใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม 20%

          ปัจจุบันบริษัท มีทุนจดทะเบียนจำนวน 145.25 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นทุน จดทะเบียนที่ชำระแล้วจำนวน 115.25 ล้านบาท และหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อทำการเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 30 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.65 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท

          “เรามีความเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้นของ COLOR เปิดให้จองซื้อ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่น้อย ด้วยหลายปัจจัยที่สนับสนุนไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานของบริษัท ที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว และจากการระดมทุนในครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มความเข้มแข็งให้กับบริษัทมากยิ่งขึ้น โดยปี 2554 วางเป้าหมายการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่า 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมามาขณะเดียวกันสภาพการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ประกอบกับมีหุ้นน้องใหม่ IPO ที่เข้าซื้อขายก่อนหน้านี้ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ดังนั้นจึงเชื่อว่าหุ้น COLOR เข้ามาก็จะได้รับการต้อนรับที่ดีไม่แพ้กัน”

          ในด้านผลประกอบการของ COLOR โดยภาพรวม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการขยายตัวของรายได้และความสามารถในการทำกำไร โดยรายได้รวมในปี 2551 เท่ากับ 512.47 ล้านบาท ปี 2552 เท่ากับ 607.28 ล้านบาท และในปี 2553 เท่ากับ 566.43 ล้านบาท ทั้งนี้การที่ยอดขายของบริษัทในปี 2553 ปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากการที่บริษัทเปลี่ยนการทำธุรกิจกับลูกค้ารายหนึ่ง จากการจำหน่ายเป็นการรับจ้างผลิตโดยลูกค้ารายดังกล่าวเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบให้ ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะนี้จะช่วยให้บริษัทจัดหาเงินทุนหมุนเวียนน้อยลง ลดความเสี่ยงในแง่ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น สำหรับกำไรสุทธิตาม งบการเงินในปี 2550 บริษัทมีกำไรอยู่ที่ 14.82 ล้านบาท ในปี 2551 ลดลงมาอยู่ที่ 0.07 ล้านบาท และกำไรสุทธิพลิกฟื้นเพิ่มเป็น 11.39 ล้านบาทในปี 2552 และเพิ่มเป็น 14.34 ล้านบาท ในปี 2553 สาเหตุที่กำไรสุทธิลดลงในปี 2551 เมื่อเทียบกับปี 2550 เนื่องจากอัตราการทำกำไรจากการดำเนินงานลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในปีดังกล่าว แต่กำไรสุทธิของบริษัทสามารถพลิกฟื้นกลับมาได้ในปี 2552 จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้รายได้จากการขายและการบริการเติบโต รวมถึงการปรับตัวลดลงของราคาเม็ดพลาสติก ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทและบริษัทย่อย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.50 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 15.88 ในปี 2551 ขณะที่ปี 2552 เพิ่มเป็นร้อยละ 19.18 และในปี 2553 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.05 อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขาย และการลดลงของต้นทุนขาย

          นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่า บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตอย่างมาก ตามอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีขั้นปลายและอุตสาหกรรมแปรรูป หรืออุตสาหกรรมประกอบชิ้นส่วน จากความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปแบบการทำธุรกิจ ผนวกกับวิสัยทัศน์และความสามารถของผู้บริหาร เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน ซึ่งในขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว และตามแผนงานที่กำหนดไว้ในเบื้องต้นคาดว่าบริษัทจะระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ประมาณไตรมาส 2/2554

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment