จีนเร่งรัดอาเซียนเจรจาเปิดเสรีเพิ่มเติม |
![]() |
![]() |
![]() |
Monday, 18 November 2013 12:48 | |||
ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน (ACFTA – JC) เพื่อทบทวนผลการเปิดเสรีภายใต้ความตกลงอาเซียน-จีน เมื่อวันที่ 5-7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ จีนได้เร่งรัดให้อาเซียนเจรจาเปิดเสรีเพิ่มเติมทั้งในเรื่องสินค้า บริการ และการลงทุน
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจจากอาเซียนให้เป็นประเทศผู้ประสานงาน (Country Coordinator) สำหรับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน โดยที่ผ่านมา ไทยได้แสดงบทบาทนำในการประสานท่าทีกับประเทศอาเซียนเพื่อใช้เจรจาต่อรองกับจีน และในการประชุมครั้งนี้ ไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน (ACFTA – JC) เพื่อติดตามผลการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ความตกลงอาเซียน-จีน ในประเด็นต่างๆ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ จีนได้แสดงความประสงค์จะให้อาเซียนเริ่มเจรจาเปิดเสรีเพิ่มขึ้นทั้งการค้าสินค้า การค้าบริการ ตลอดจนการเปิดเสรีด้านการลงทุน ซึ่งความตกลงที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมถึงประเด็นการเปิดเสรี นอกจากนี้ จีนยังต้องการขยายขอบเขตประเด็นทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจใหม่ๆ เข้าไปในความตกลงด้วย อาทิ ความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า อาเซียนและจีนได้ลงนาม Framework Agreement on Comprehensive Economic Cooperation เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2545 โดยครอบคลุมด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ซึ่งต่อมาความตกลงฉบับดังกล่าวได้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน – จีน และส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างกันขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน จีนได้กลายเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน โดยในปี 2555 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 399,651.90 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ประมาณร้อยละ 10.3 ทั้งนี้ ผู้นำอาเซียน-จีนได้ตั้งเป้าหมายการค้าสองฝ่ายให้ขยายตัวถึง 500,000 ล้านเหรียญ ในปี 2558
ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน – จีน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ณ ประเทศบรูไน ผู้นำอาเซียนและจีนเห็นพ้องกันว่า ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน เป็นความตกลงการค้าเสรีฉบับแรกที่อาเซียนทำกับประเทศคู่เจรจานอกกลุ่ม และเป็นความตกลงที่มีอายุเกือบ 10 ปี จึงควรมีการพัฒนาเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย และเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการค้าระหว่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
|
![]() | Today | 641 |
![]() | All days | 641 |
Comments